ประกอบคอมพิวเตอร์ 2
สวัสดีค่ะ ครั้งนี้เราวันนี้เราจะมาเลือกซื้ออุปกรณ์ในการประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์
ด้วยราคา 16000 บาท
ไปดูเลยค่ะว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง??
----------------- เรามาดูแนวทางในการเลือกซื้ออุปกรณ์แต่ละชิ้นกันเลยค่ะ -----------------------------
1.การเลือกซื้อซีพียู
การเลือกซื้อซีพียูต้องพิจารณาเรื่องความเร็ว ความเร็วขั้นต่ำแปรเปลี่ยนไปตามเวลา โดยปกติจะดูว่าซื้อเพื่ออะไร
เช่นถ้าซื้อใช้งานเป็นเพียงอินเทอร์เน็ตบราวเซอร์ในห้องเรียนให้นิสิตใช้ เพื่อเป็นการเรียกเข้าสู่อินเทอร์เน็ต
สามารถใช้ซีพียูรุ่นต่ำที่มีขายในปัจจุบันราคาซีพียูในระดับต่ำนี้
การตัดสินใจจะเลือกซื้ออะไรมาใช้ คงต้องลองศึกษาจากหลายๆ องค์ประกอบ
โดยเฉพาะการมองหารายละเอียด ข้อดี ข้อเสีย รวมทั้งงบประมาณการลงทุนต่างๆ
ที่มีอยู่ด้วย เทคนิคที่เกี่ยวกับซีพียูทั้งสองด้านนี้
สามารถหาได้ได้จากเว็บไซต์ของบริษัท คือwww.amd.com และ www.intel.com ผู้สนใจลองทำการศึกษาอย่างน้อยเป็นความรู้ที่จะมีประโยชน์ต่อไป
อันดับ แรกที่เราควรให้ความสำคัญ
ในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจำมาประกอบเอง
หรือซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเซตก็ตาม คือการเลือกซีพียูนั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นรุ่นและความเร็วของซีพียูตามระดับการใช้งานของเรา
เพื่อเราจะได้ทราบรูปแบบอินเทอร์เฟส (Socket) สำหรับติดตั้งบนเมนบอร์ด เพื่อเลือกซื้อเมนบอร์ดที่ตรงกับรุ่นของซีพียูต่อไป
- ซีพียูที่เลือกซื้อมีราคา 3,500 บาท รายละเอียดดังนี้เลยค่ะ
2. เลือกซื้อเมนบอร์ด
คนส่วนใหญ่ที่กำลังจะเลือกซื้อคอมพิวเตอร์มักหาข้อมูลทำการบ้านแต่เฉพาะในส่วนหลักสองส่วนใหญ่
ก็คือ ซีพียู และ กราฟฟิคการ์ด
ซึ่งก็จริงที่ทั้งสองส่วนนี้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้คนที่ได้ฟังสเปกสองตัวนี้ถึงกับร้องอู้หู้เมื่อได้ยินว่าเราใช้
Intel® Core i7 940
หรือ ได้ยินว่าเราใช้กราฟฟิคการ์ด NVIDIA Geforce295GTX เพราะทั้งสองส่วนนี้เป็นตัวที่ตอบสนองความแรงในการประมวลผลไม่ว่าด้านตัวเลข
หรือ ภาพ 3D แต่เคยมีใครได้สังเกตไหมว่าจริงๆ
แล้วเรายอมลดสเปกอุปกรณ์บางอย่างลงไปเพื่อให้ได้มาซึ่งซีพียูหรือกราฟฟิกการ์ดที่แรง
แต่เรากลับไม่ได้สนใจว่าเมนบอร์ดที่เราซื้อเพื่อใช้กับซีพียูและกราฟฟิกการ์ดนี้
มีประสิทธิภาพที่จะดึงความสามารถของซีพียู กราฟฟิกการ์ด และ
ทนทานต่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องของเราเพียงใด เทคโนโลยีที่ใช้เป็นอย่างไร
มีซอฟท์แวร์ที่มาพร้อมกับเมนบอร์ดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มความปลอดภัย และ
ความสะดวกให้กับเราไหม
เพราะตอนนี้ซอฟท์แวร์ที่มาพร้อมกับตัวเมนบอร์ดอาจจะเป็นตัวตัดสินที่ทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจเลือกใช้เมนบอร์ดด้วยส่วนหนึง
เกริ่นมาซะเยอะแล้ว วันนี้จะนำความรู้ดีๆ มาช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อเมนบอร์ดคุณภาพดีดีกันค่ะ
ตามมาดูกันเลยค่ะ…
Main Board หรือ Motherboard คือ
แผงวงจรหลักทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อระหว่างฮาร์ดแวร์ต่างๆ
เพื่อทำให้อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทั้งหมดที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นซีพียู
หน่วยความจำ ฮาร์ดไดรฟ์ ซีดีรอมไดรฟ์ ดีวีดีรอมไดรฟ์
ที่ผ่านทางสายเคเบิลหรือแม้แต่การ์ดแสดงผล
และการ์ดเสียงก็ล้วนแล้วแต่ต้องทำงานเข้ากันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีเสถียรภาพ
เมนบอร์ดในปัจจุบันที่เราพบเห็นในตลาดมีสองค่ายเท่านั้นเองครับ
อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่ามีแค่สองบริษัทที่ขายเมนบอร์ดไม่ใช่แบบนั้นครับ
แต่หมายความว่ามีเมนบอร์ดที่ซัพพอร์ตซีพียูระหว่าง Intel® และ AMD เท่านั้นนะคะ แต่ผู้ผลิตเมนบอร์ดมีอยู่มากมายหลายบริษัทให้เราเลือกใช้
โดยแต่ละบริษัทก็มีจุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกัน
ขึ้นอยู่กับตัวสินค้าที่ออกมาว่าจะโดนใจใครหลายคนหรือเปล่า แต่อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้นค่ะว่า
ปัจจุบันการต่อสู้ทางการตลาดของสินค้าประเภทเมนบอร์ดไม่ได้วัดกันที่เฉพาะอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์บนเมนบอร์ด
หรือ แค่สเปกของเมนบอร์ดเท่านั้น
แต่ยังต้องรวมถึงซอฟท์แวร์ยูทิลิตี้ที่มาพร้อมกับเมนบอร์ดด้วย ว่าสามารถทำประโยชน์
และเพิ่มความสามารถในการใช้งานเมนบอร์ดในด้านใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มความเร็วให้กับซีพียู
เพิ่มความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกอื่นๆ เพิ่มเติม
คราวนี้ผมจะแยกส่วนสาระสำคัญของฮาร์ดแวร์ที่อยู่บนเมนบอร์ด
เพื่อเพิ่มความเข้าใจให้กับผู้อ่าน
เพื่อที่จะตัดสินใจในการครอบครองเมนบอร์ดได้อย่างถูกต้อง และได้ใช้ประโยชน์สูงสุดค่ะ
- เมนบอร์ดที่เลือกซื้อมีราคา 3,200 บาท รายละเอียดดังนี้เลยค่ะ
3.
เลือกซื้อแรม
1.ประเภทของแรม
สำหรับคนที่จะซื้อในขนาดนี้จะมีอยู่ 2 ประเภท
1.1
DDR 2
มีความนิยมเป็นอย่างยิ่งถือเป็นแรมตลาดเลยที่เดียว เพราะในปัจจุบันนี้เมนบอร์ดเองก็สามารถรองรับการทำงานของแรมชนิดนี้ได้หมดแล้ว
ราคาในขณะนี้ก็มีราคาที่ไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับชนิดอื่นๆ
และในเรื่องของความเร็วก็สามารถใช้ได้เร็วมากเลยที่เดียว
มีความเร็วตั้งแต่ 400-1,066 MIz ใช้แรงดันไฟฟ้า
1.8 V
1.2 DDR3
เป็นแรมประเภทมี่พึ่งมาใหม่ล่าสุดเลย ซึ่งมีความเร็วสูงสุด
ถึง 1,600-2,000 MHz ใช้แรงดันไฟฟ้าแค่เพียง 1.5
V เท่านั้น ถือได้ว่ามีความเร็วสูงกว่าทุกประเภทแต่ปัจจุบันนี้ได้มี
DDR4 ที่สำคัญ DDR3กับ DDR2
ใช้สล็อตเดียวกันไม่ได้เพราะฉะนั้นแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะใส่ผิด
2.หน่วยความจำ
แรมนั้นมีหน่วยความจำหลัก ที่จำเป็นต้องการความจำสูงเพื่อประสิทธิภาพของการทำงานเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย
โดยหน่วยความจำของแรมนั้น มีหน่วยเป็น GHz ยิ่งมีความจำมากก็ทำให้เครื่องเราเร็วขึ้นไปด้วย
ราคมของแรมที่มีความจุสูงๆ เดี่ยวนี้ราคาไม่แพงมากนัก แต่ก็ควรที่จะดูว่าขนาดไหนเหมาะกับเรา
เพื่อจะได้ไม่สิ้นเปลืองมากกว่าปกติ
3.ความเร็ว
ความเร็วหรือว่า
บัสของแรมนั้นก็มีความสำคัญเพาะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การถ่ายโดนข้อมูลได้เราขึ้น
ซึ่งก็ได้กล่าวไปแล้ว่าประเภทของแรมนั้นก็มีความเร็วที่แตกต่างกัน แล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดเราอีกนั้นล่ะว่าจะรองรับได้มากแค่ไหน
หรือถ้าใครซื้อแรมชนิดไหนก็ได้ที่มีความเร็วสูงไปที่เมนบอร์ดจะรองรับก็สามารถจะใส่ได้เมื่อซื้อแรมที่เป็นประเภทเดียวกันเท่านั้นแต่ความเร็วของแรมก็เท่ากับ
เมนบอร์ดรองรับ และใครที่ซื้อแรมมา 2
ตัวแต่ มีความเร็วเท่ากัน มันก็จะใช้แรมที่มีความเร็วต่ำกว่านั้นเอง
4.ก็การเลือกยี่ห้อ
การเลือกยี่ห้อนั้น
มีการรับประกันที่แต่ต่างกันนิดหน่อยเท่านั้นเองครับ อย่างเช่นการเครมที่ไหม้ได้ไม่ได้
รวมทั้งราคาของแรมด้วยประสิทธิภาพจะแตกต่างกันหรือไม่นั้นส่วนตัวผมเอง
ใช่มาหลายยี่ห้อแล้วไม่ต่างกันเลย เพราะฉะนั้นอยากได้ยี่ห้อไหนรับประกันดีเป็นพอค่ะ
- แรมที่เลือกซื้อมีราคา 1,260 บาท รายละเอียดดังนี้เลยค่ะ
4.
เลือกซื้อฮาร์ดดิสก์
สำหรับฮาร์ดดิสก์เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่มาก
เพราะฉะนั้นแล้วจึงมีการเลือกซื้อให้เหาะสมกับความต้องการของเรา
ในปัจจุบันฮาร์ดดิสก์ได้มีราคาต่อความจุถูกมาก และมีความเร็วที่แตกต่างกัน จะข้อแนะนำการเลือกซื้อดังต่อไปนี้
1.ประเภทของ ฮาร์ดดิสก์
ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ๆ กันอยู่ในปัจจุบันมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน
คือ (สำหรับฮาร์ดดิสก์ที่เชื่อมต่อภายนอกจะขอกล่าวในลำดันถัดไป)
– แบบ IDE เป็นฮาร์ดดิสก์
ที่จะบอกว่ารุ่นเก่าแล้วก็ว่าได้ เพราะว่ามีรุ่นใหม่ที่เร็วกว่าประหยัดทั้งพื้นที่ประทั้งพลังงานได้ดีกว่า
และเมื่อเปรียบเทียบแล้วจะราคาแพงกว่า SATA ด้วยซ้ำ
– แบบ SATA เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามามนตอนนี้และได้มีความนิยมเป็นอย่างมาก
เพราะว่าในเมนบอร์ดรุ่นใหม่นั้นก็ลองรับได้หมดแล้ว และมีราคาที่ถูกกว่า ฮาร์ดดิสก์ แบบSATA
2.ขนาดของความจุ
ความจุของฮาร์ดดิสก์หรือพื้นจัดเก็บข้อมูล นั้นมีความสำคัญว่าเราจะใช้งานประเภทใดและต้อง เลือกความจุขนาดใดใครที่ชอบทำงานด้านมัลติมีเดียก็ต้องเลือกความจุมากๆ
ปัจจุบันนี้มีความจุ ถึง 2 GB ไปแล้วซึ่งสามารถเก็บข้อมูลจนลืมไปเลยว่าซื้อมาตอนไหน
ไม่รู้จักเต็มสักที แต่ก็ยังมีราคาที่สูงอยู่นั้นเอง
3.ความเร็วรอบ
ความเร็วรอบของฮาร์ดดิสก์นั้นย่อมมีผลโดยตรงต่อความเร็วของฮาร์ดดิสก์
คือถ้าฮาร์ดดิสก์มีความเร็วรอบสูงแล้ว ข้อมูลก็จะเคลื่อนมาถึงหัวอ่านได้อย่างรวดเร็วขึ้น
ความเร็วรอบของฮาร์ดดิสก์นั้นมีหน่วยเป็น “รอบต่อนาที
(rpm) ในปัจุจบันความเร็วรอบนั้น 5,400-7,200
rpm แล้ว และยังมีการพัฒนาความเร็วได้ถึง
10,000 rpm
4.บัฟเฟอร์ของ ฮาร์ดดิสก์
บัฟเฟอร์ก็คือหน่วยความจำแคชของฮาร์ดดิสก์นั้นเองค่ะ เป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกความเร็วและประสิทธิภาพของฮาร์ดดิสก์
ถ้าเกิดฮาร์ดดิสก์ไหนที่มีขนาดบัฟเฟอร์ขนาดใหญ่ก็จะช่วยให้ไม่ต้องเสียเวลาที่จะกลับไปนำข้อมูลนั้นมาใช้ซ้ำอีก
โดยการทำงานนั้นจะทำงานรวมกับแรม แรมจะนำข้อมูลจากบัฟเฟอร์มาใช้โดยตรง
ในปัจจุบันแล้วขนาดบัฟเฟอร์ ก็มีจำนวน 8-32
MB ไปแล้ว
5.ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูล
ช่วงเวลาในการเข้าถึงข้อมูล (Seek Time) คือช่วงเวลาที่ตำแหน่องบนจานของฮาร์ดดิสก์นั้นหมุนมาพอดีกับตรงที่หัวอ่านพอดี
ความเร็วนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเร็วรอบของฮาร์ดดิสก์เอง
ยิ่งมีความเร็วที่น้อยก็สามารถที่จะทำให้ฮาร์ดดิสก์นั้นอ่านเขียนได้เร็วขึ้น
มารู้จักเทคโนโลยีไฮบริด (Hybrid) ฮาร์ดดิสก์แบบนั้นคือเป็นเทคโนโลยีที่นำหน่วยความจำมาเป็นแฟลช
มาทำงานร่วมกับฮาร์ดดิสก์โดยลักษณะจะเหมือนการทำงานของแฟลชไดร์
โดยหน่วยความจำที่นำมาใช้นั้นจะช่วยเพิ่มที่จะช่วยโหลดไฟล์ที่ใช้งานบ่อยๆ
หรือเก็บมาไว้ใช้ชั่วคราว ก็ช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความรวดเร็วของของมูล
- ฮาร์ดดิสก์ที่เลือกซื้อมีราคา 2,490บาท รายละเอียดดังนี้เลยค่ะ